รถฟอร์จูนเนอร์ มือสองราคาดี ที่ผ่านการผลิตอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน
February 10, 2024

รถฟอร์จูนเนอร์เป็นหนึ่งในรถทรงดีที่สามารถใช้งานได้นาน คุณภาพไม่ตก การเลือกซื้อรถพอร์จูนเนอร์มือสอง จึงเป็นตัวเลือกที่ดี สามารถตอบโจทย์ให้กับสายที่ต้องการรถสไตล์สปอร์ต หรือ สไตล์ เอนกประสงค์ โดยฟอร์จูนเนอร์เองก็มีหลายรุ่นที่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป

 

Fortuner GR Sport

Fortuner GR Sport

รถ Fortuner GR Sport เป็นรถทรง PPV หรือทรงกระบะ มีเครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร ดีเซล 2,755 ซีซี ที่มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนทำให้มีประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างลื่นไหล มีความนิ่ง มอบความรู้สึกนุ่มสบาย และมีฟังก์ชันความปลอดภัยอย่าง Toyota Safety Sense ที่ช่วยเตือนและป้องกันภัยกับผู้ขับขี่โดยอัตโนมัติ

ซึ่ง Fortuner GR Sport ก็จะมีสีสันและดีไซน์ที่หลากหลาย เช่น

ตัวเลือกสีของรถ

  • Attitude Black Mica สีดำทั้งคัน
  • Emotional Red | Black Top สีแดงมีส่วนบนของรถตัดสีดำ
  • White Pearl CS | Black Top สีขาวมุกมีส่วนบนของรถตัดสีดำ

ดีไซน์ภายนอก

  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ขอบยาง 265/50 R20 และ อะไหล่แบบ Full Size
  • กระจังหน้ามีสีดำเงา ส่วนชุดกันชนหน้าจะมีสีเงิน และ มีบันไดข้างเป็นสีดำ
  • ไฟหน้า Dual Projector Lens แบบ LED มีระบบเปิด-ปิดไฟ แบบอัตโนมัติ มาพร้อมระบบปรับระดับไฟ สูง-ต่ำ อัตโนมัติ และ ไฟตัดหมอกคู่หน้าเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่
  • พร้อมระบบ Follow-me-home ช่วยให้ไฟหน้ารถยนต์ส่องสว่างแม้ดับเครื่องยนต์แล้ว
  • ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding มีไฟตัดหมอก และ ไฟเบรกดวงที่ 3
  • ไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลัง เป็น LED แบบ Sequential
  • กระจกมองข้างสีดำ ปรับและพับ ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว และ Welcome Light
  • มือเปิดประตูโครเมียม
  • ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้มือ Kicks Sensor Hands-Free Tailgate พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • มีราวจับบนหลังคารถ และ เสาอากาศแบบ Shark Fin
  • ท่อไอเสียแบบสแตนเลส

ดีไซน์ภายใน

  • ภายในมีโทนสีดำ ตัดกับวัสดุตกแต่งสี Smoke Silver พร้อมบุหนังสีดำ เดินตะเข็บด้ายสีแดง มีช่องแอร์ที่ตกแต่งด้วยสี Smoke Silver และ โครเมียม และ มือเปิดประตูภายใน แบบโครเมียม
  • แผงข้างประตู บุด้วยหนังสีดำ ตกแต่งด้วยสี Smoke Silver และมีแผงควบคุมกระจกหน้าต่าง ตกแต่งด้วยสีดำเมทัลลิค

 

  • ที่บังแดดคู่หน้า มาพร้อมกับกระจกแต่งหน้า ไฟส่องสว่าง และ กระจกมองหลัง แบบปรับแสงอัตโนมัติ
  • มือจับภายในห้องโดยสาร 8 ตำแหน่ง
  • มีไฟ Ambient Light และ มีไฟส่องสว่างที่ประตู 4 บาน
  • พวงมาลัยตกแต่งสี Smoke Silver เดินตะเข็บด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Soft Touch เจาะรู ตกแต่ง Center Mark สีแดง มีสัญลักษณ์ GR สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
  • มีหนังหุ้มหัวเกียร์ ส่วนฐานเกียร์ตกแต่งด้วยลาย Carbon Fibre และทั้งคู่ตกแต่งด้วยสี Smoke Silver และ แป้น Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย
  • กล่องเก็บของหุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง และมีช่องเก็บของด้านบน แบบรักษาความเย็น Cool Box
  • มีมาตรวัดเรืองแสง Optitron และ หน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นTire Turning Angle ที่แสดงองศาการเลี้ยวล้อหน้า
  • ใช้ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • มีระบบ Smart Key และ ระบบเซ็นทรัลล็อค แบบ Speed Auto Lock
  • การขับขี่ที่ปรับได้ทั้ง ECO / Normal / Sport
  • ระบบปรับอากาศ Dual Zone แบบอัตโนมัติ มีสวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน
  • มีช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ AC 220V 1 ตำแหน่ง และช่องชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
  • พรมปูพื้นห้องโดยสาร ที่เป็นเอกลักษณ์รุ่น GR Sport

รุ่นย่อย

  • 2.8 GR Sport

Fortuner Leader

Fortuner Leader

Fortuner Leader เป็นรถยนต์อเนกประสงค์คันใหญ่ทรง PPV ที่มีราคาย่อมเยาจับต้องได้ มีเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ดีเซล มีกำลัง 150 แรงม้าที่ 3,400ต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที และ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อมระบบ Sequential Shift และ Paddle Shift มีระบบช่วยเตือนความปลอดภัยรถอย่าง ระบบเตือนมุมอับและระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ และสัญญาณเตือนกะระยะ 6 ตำแหน่ง สร้างความสบายใจและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ จึงกลายเป็นรถฟอร์จูนเนอร์รุ่นยอดนิยมที่หลายคนหาซื้อกันทั้งแบบมือหนึ่งและมือสอง

ตัวเลือกสีของรถ

  • Attitude Black Mica สีดำทั้งคัน
  • Emotional Red สีแดงทั้งคัน
  • White Pearl CS สีขาวมุกทั้งคัน
  • Silver Metallic สีเงินทั้งคัน
  • Dark Grey Metallic สีเทาทั้งคัน
  • Dark Blue Mica สีน้ำเงินทั้งคัน

ดีไซน์ภายนอก

  • มีการดีไซน์หลายถอดแบบมาจากรุ่น Legender
  • มีการดีไซน์กระจังหน้ารูปแบบใหม่
  • ทั้งกันชนหน้าและหลัง ถูกดีไซน์ใหม่
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
  • คิ้วตกแต่งประตูหลังสีดำ
  • บันไดข้างเป็นสีดำ
  • สัญลักษณ์ประจำรุ่น Leader

ดีไซน์ภายใน

  • มีระบบปรับอากาศ เป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา
  • มีแผ่นกรอง PM 2.5 จากระบบปรับอากาศ
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ใช้ได้ทั้งกับระบบ Android Auto และ Apple Car Play
  • ระบบดูแลการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
  • กระจกมองหลังที่ช่วยลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
  • เบาะนั่งตอนหน้าแบบสปอร์ตหุ้มหนัง และหนังสังเคราะห์ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง

รุ่นย่อย

  • Toyota Fortuner 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
  • Toyota Fortuner 2.4 Leader V เกียร์อัตโนมัติ
  • Toyota Fortuner 2.4 Leader G เกียร์อัตโนมัติ

Fortuner TRD Sportivo

 

Fortuner TRD Sportivo

Fortuner TRD Sportivo เป็นรถทรง sport ที่จัดการดีไซน์ให้มีเอกลักษณ์ไปที่ความดุดันและโฉบเฉี่ยว มีเครื่องยนต์ GD Efficient Boost 2.8 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VN Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ กำลัง 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน - เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบต่อนาที และ มีเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Sequential Shift และ Paddle Shift

ตัวเลือกสีของรถ

  • Attitude Black Mica สีดำทั้งคัน
  • White Pearl Crystal สีขาวทั้งคัน
  • White Pearl Crystal | Black Top สีขาวตัดบนดำ

ดีไซน์ภายนอก

  • หลังคาแบบสปอร์ต BLACK TOP เคลือบฟิล์มดำ
  • กันชนหน้าดีไซน์ sport ประกอบกับกระจังหน้าสีดำเมทัลลิก ตามด้วยสเกิร์ตหน้า และกรอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่
  • ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟส่องสว่างสัญลักณ์ TRD
  • กันชนท้ายกับสเกิร์ตหลังในรูปแบบใหม่และคิ้วประตูท้ายสีดำเมทัลลิก
  • ล้ออัลลอย TRD 20 นิ้ว สีทูโทน
  • ท่อไอเสียสแตนเลส TRD
  • สคัฟเพลท ตกแต่งด้วยไฟเรืองแสงสัญลักษณ์ TRD
  • สัญลักษณ์ประจำรุ่น TRD Sporivo

ดีไซน์ภายใน

  • ภายในบุด้วยวัสดุหนังและสังเคราะห์สีดำแดง พร้อมชุดแต่งลาย Carbon Kevlar และแถบโครเมียม
  • ปุ่ม Push Strat ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ TRD
  • กุญแจ Smart Key ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ TRD
  • ระบบเครื่องเสียง Premium Audio PowerAmpและลำโพง JBL 9 ตำแหน่งรวม 11 ลำโพง
  • เบาะหนังคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางสีดำสลับแดง เดินด้ายแดงตกแต่ง
  • ระบบนำทาง (Navigator) รองรับ TiCONNECT
  • เครื่องเล่น DVD จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อ Bluetooth และกล้องมองหลังได้
  • ชุดพรมปูพื้น TRD Sporivo
  • มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron ที่ดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยสีแดงลาย Carbon Kevlar และสัญลักษณ์ TRD

รุ่นย่อย

  • 2.8 Sportivo A/T 2WD
  • 2.8 Sportivo A/T 4WD

Fortuner MY 2017

Fortuner MY 2017

Fortuner MY 2017 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์คันใหญ่ทรง PPV ที่ให้ตัวเลือก engine ที่หลากหลายสามารถเลือกได้ ให้เหมาะกับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ดีเซล 2.4 ลิตร ที่มีแรงม้าสูงถึง 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที ดีเซล 2.8 ลิตร ที่มีกำลังแรงม้าอยู่ที่ 177 แรงม้าที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที หรือ เบนซิน 2.7 ลิตร มีแรงม้าสูงสุดถึง 166 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที และทำแรงบิด 245 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จึงเป็นรถฟอร์จูนเนอร์ในฝันของใครหลายคนที่อยากได้ทั้งแบบมือหนึ่งหรือมือสอง

ตัวเลือกสีของรถ

  • Black สีดำทั้งคัน
  • White Pearl สีขาวทั้งคัน
  • White Pearl | Black Top สีขาวตัดบนดำ

ดีไซน์ภายนอก

  • ไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมบันไดข้าง กระจกไฟเลี้ยว และไฟเบรก
  • กระจังหน้าโครเมี่ยมแนวนอน 3 ชั้น ใหม่
  • โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-Beam LED ที่มีระบบการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติพร้อมชุดไฟ Daytime Running Light
  • ฝาท้ายควบคุมการเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/60R18

ดีไซน์ภายใน

  • เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำน้ำตาลและสีครีมชามัวส์ ทั้ง 7 ที่นั่ง
  •  แผงคอนโซลหน้าออกแบบใหม่ ออกแบบด้วยโทนสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสลับกับลายไม้ด้าน 
  • มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ขนาด 4.2 นิ้ว
  • ปุ่ม Push Start
  • กุญแจ Smart Entry
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังสลับลายไม้ด้าน
  • Paddle Shift
  • กระจกไฟฟ้าขึ้นลง Auto และป้องกันการหนีบ ทั้ง 4 บาน
  • เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์บนหลังทั้งตอน 2ตอน 3
  • ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า กระแสสลับ AC 220 V ในกล่องคอนโซลกลาง

รุ่นย่อย

  • 2.8 TRD Sportivo 4WD
  • 2.8 TRD Sportivo 2WD
  • 2.8 V 4WD
  • 2.8 V 2WD
  • 2.7 V 2WD เครื่องเบนซิน
  • 2.4 V 4WD
  • 2.4 V 2WD
  • 2.4 G 2WD เกียร์ธรรมดา

Fortuner TRD Sportivo 2

Fortuner TRD Sportivo 2

Fortuner TRD Sportivo 2 มีอีกชื่อหนึ่งว่า MY 2018 เป็นรุ่นที่พัฒนาตกแต่งต่อเนื่องมาจาก Fortuner MY 2017 ให้มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น โดยมีเครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time

ตัวเลือกสีของรถ

  • Black สีดำทั้งคัน
  • White Pearl สีขาวทั้งคัน
  • White Pearl | Black Top สีขาวตัดบนดำ

ดีไซน์ภายนอก

  • กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมสเกิร์ตในตัว
  • กระจังหน้า สีโคลมดำ Dark Chrome
  • Wrapping Film สีดำ Matt Black Top ติดตั้งบนหลังคา สำหรับรุ่นขาวตัดดำ
  • คิ้วขอบป้ายทะเบียนหลัง สีโคลมดำ Dark Chrome
  • ป้ายสัญลักษณ์ประจำรุ่นพิเศษ TRD Sportivo
  • ปลอกปลายท่อไอเสีย TRD Sportivo
  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ลาย 6 ก้าน สีโคลมดำ TRD Sportivo
  • ยาง Dunlop 265/50 R20
  • ดิสก์เบรกหลัง ที่มาพร้อมครีบระบายความร้อน
  • คอยล์สปริง และ ช็อคอัพ เซ็ตอัพใหม่จาก TRD Sportivo

ดีไซน์ภายใน

  • ระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Audio และระบบจอสัมผัส Touchscreen
  • ระบบนำทาง Navigation System พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ T-Connect
  • ลำโพง 9 ตำแหน่ง ; 11 ลำโพง จาก JBL พร้อม PowerAmp
  • พวงมาลัยหุ้มหนัง ลวดลาย Carbon Kevlar
  • ช่องเก็บของด้านบน ตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ TRD Sportivo
  • มาตรวัดเรืองแสง Optitron สีแดงพร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo
  • แผงข้างประตูบุหนังสีแดง
  • แผงแดชบอร์ดหน้าหุ้มหนังสีดำ สลับ สีแดง
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีดำ สลับ แดง เดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง
  • ฐานเกียร์ตกแต่งด้วยลาย Carbon Kevlar
  • วัสดุตกแต่งในห้องโดยสาร สี Dark Silver
  • ปุ่มสตาร์เครื่องยนต์ สีแดง พร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo
  • กุญแจรีโมท Smart Key ตกแต่งสีดำสลับสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ TRD
  • ขอบประตูด้านหลัง ตกแต่งสัญลักษณ์ TRD Sportivo
  • ไฟส่องสว่างที่ฝาท้ายแบบไฟฟ้า พร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo
  • พรมรองพื้นห้องโดยสาร พร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo
  • สคัฟเพลท พร้อมไฟ LED เรืองแสง พร้อมสัญลักษณ์ TRD Sportivo

รุ่นย่อย

  • 2.8 Sportivo A/T 2WD
  • 2.8 Sportivo A/T 4WD

Fortuner Legender

Fortuner Legender

Fortuner Legender เป็นรุ่นที่มีการดีไซน์ภายนอกอย่างพิถีพิถัน ให้โดดเด่นกว่ารุ่นมาตรฐานมีเครื่องยนต์ทั้งดีเซล 2.4และ ดีเซล 2.8 โดยที่เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร สามารถให้กำลังสูงสุดได้ถึง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาทีและมีรอบเดินเบา 680 รอบต่อนาที และด้วยสเปคที่ไม่ธรรมดาจึงกลายเป็นรถฟอร์จูนเนอร์ที่ถูกถามหาในท้องตลาดทั้งมือหนึ่งและมือสอง

ตัวเลือกสีของรถ

  • Attitude Black Mica สีดำทั้งคัน
  • Emotional Red | Black Top สีแดงทั้งคัน
  • Platinum White Pearl สีขาวมุกคัน

ดีไซน์ภายนอก

  • มีกระจังหน้าสีดำเงา กันชนหน้าสีเงิน และ บันไดข้างสีดำ
  • ไฟหน้าเลนส์โปรเจคเตอร์ LED Dual Projector พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ  Follow-me-home และระบบปรับไฟหน้าสูง-ต่ำแบบอัตโนมัติ
  • ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding
  • ไฟเลี้ยวหน้า-หลัง LED แบบ Sequential
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว สีดำ และ ระบบ Welcome Light
  • มือเปิดประตูโครเมียม
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • มีราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง
  • ที่ปัดน้ำฝนหน้าแบบปรับตั้งเวลา และมีปัดน้ำฝนหลัง

ดีไซน์ภายใน

  • สีภายในเป็นโทนสีดำ เบาะนั่งเป็นดำสลับแดง หุ้มเบาะด้วยหนังและหนังสังเคราะห์
  • เบาะนั่งแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้า ทั้งด้านผู้ขับ และผู้โดยสาร มีเบาะนั่งถึง 3 แถว
  • แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยแถบสีเงิน บุหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง
  • ช่องปรับอากาศด้านหน้าแถบสีเงิน และโครเมียม
  • แผงข้างประตู ตกแต่งด้วยแถบสีเงินบุหนังสังเคราะห์สีดำสลับแดง
  • แผงควบคุมข้างประตูสีดำเมทัลลิก
  • มือเปิดประตูด้านในโครเมียม
  • มีที่บังแดดทั้งด้านผู้ขับขี่และด้านผู้โดยสาร มีที่เก็บนามบัตร กระจก ฝาปิด และไฟส่องสว่าง
  • มือจับ 8 ตำแหน่ง
  • การปรับระดับพวงมาลัย ปรับได้4 ทิศทาง ทั้ง สูง-ต่ำ และเข้า-ออก (Tilt & Telescopic)
  • พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ Soft Touch เดินด้ายสีแดงพร้อมลายไม้แบบ Galaxy Black และแถบสีเงิน
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ และ MID ที่พวงมาลัย
  • หัวเกียร์หุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบสีเงิน ฐานเกียร์เป็นลายไม้แบบ Galaxy Black พร้อมแถบสีเงิน เบรกมือหุ้มหนัง เป็นโทนโครเมียม
  • มีมาตรวัดเรืองแสง Optitron ที่ดีไซน์เฉพาะรุ่น Legender
  • จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID) จอสี แบบ TFT
  • มีไฟแสดงตำแหน่งกุญแจ บริเวณแผงคอนโซลหน้า, แผงข้างประตู และที่วางเท้าแถวที่ 1
  • มีไฟส่องสว่างที่ประตูทั้ง 4 บาน
  • มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
  • กระจกไฟฟ้าแบบขึ้น-ลงอัตโนมัติ พร้อมระบบป้องการการหนีบทั้ง 4 บาน
  • กุญแจรีโมท Smart Key ดีไซน์เฉพาะรุ่น Legender และ เซ็นทรัลล็อก แบบ Speed Auto Lock
  • ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start
  • สามารถสวิตซ์เลือกโหมดการขับขี่ (Eco/Power)
  • ระบบปรับอากาศ แถวที่ 1 ปรับทิศทางลม 5 รูปแบบอัตโนมัติ ส่วนแถวที่ 2 และ 3 จะสามารถปรับแรงลมอัตโนมัติได้
  • ช่องเก็บของด้านบนแบบ Cool Box ช่องเก็บของด้านล่างและกล่องเก็บของ เป็นแบบหน่วง มาพร้อมกุญแจล็อก
  • ช่องเก็บของที่แผงประตู มาพร้อมที่วางขวดน้ำ มีที่เก็บแว่นตา / ที่วางแก้ว มีช่องเก็บเอกสารหลังเบาะคู่หน้า ที่แขวนสัมภาระหลังเบาะคู่หน้า และ ที่แขวนอเนกประสงค์
  • มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสตรง DC 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220 1 ตำแหน่ง และ ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 ตำแหน่ง

รุ่นย่อย

  • 2.4 Legender
  • 2.4 Legender 4WD
  • 2.8 Legender

Fortuner Commander

Fortuner Commander

Fortuner Commander เป็นรุ่นพิเศษที่เปิดตัวในปี 2022 ผลิตจำนวนจำกัด 1,000 คัน เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทำให้เป็นรถฟอร์จูนเนอร์อีกรุ่นหนึ่งที่น่าใช้งานอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรถฟอร์จูนเนอร์มือหนึ่งหรือมือสองก็ดี เนื่องจากสเปคที่ให้มาดังนี้

ตัวเลือกสีของรถ

  • White Pearl CS | Black Top สีขาวมุกตัดบนดำ
  • Emotional Red | Black Top สีแดงตัดบนดำ

ดีไซน์ภายนอก

  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/50 R20 และยางอะไหล่แบบ Full Size
  • กระจังหน้า สีดำเงา และ โครเมียม พร้อมชุดตกแต่งกันชนหน้า สีเงิน และ บันไดข้าง สีเงิน
  • ไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-Beam LED ระบบเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ และระบบ Follow-me-home สามารถปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ อัตโนมัติ พร้อมกับมีไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
  • ไฟท้าย LED แบบ Light Guiding มีไฟตัดหมอกด้านหลัง มีไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED และมีไฟเลี้ยว ด้านหน้า-ด้านหลัง LED
  • กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว และระบบไฟ Welcome Light
  • มือเปิดประตูเป็นแบบโครเมียม
  • ฝาท้าย เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • ราวหลังคา
  • สปอยเลอร์หลัง
  • เสาอากาศแบบครีบฉลาม Shark Fin

ดีไซน์ภายใน

  • ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ แดชบอร์ดหน้าและบริเวณแผงประตู บุนุ่มด้วยหนัง สีดำ
  • ช่องแอร์ ตกแต่งด้วยแถบสีเงิน และ โครเมียม
  • แผงควบคุมกระจกหน้าต่าง ตกแต่งด้วยสีดำเมทัลลิค
  • มือเปิดประตูภายในเป็นแบบโครเมียม
  • ที่บังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า และ ไฟส่องสว่าง
  • มือจับภายในห้องโดยสาร 8 ตำแหน่ง
  • ไฟส่องสว่างที่ประตู 4 บาน
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลายไม้ พร้อมแถบสีเงิน
  • หัวเกียร์และเบรกมือ หุ้มด้วยหนัง
  • มาตรวัดเรืองแสง Optitron ที่มากับหน้าจอแสดงข้อมูล MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นแสดงองศาการเลี้ยวล้อหน้า Tire Turning Angle
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • ระบบกุญแจ Smart Key และระบบเซ็นทรัลล็อค แบบ Speed Auto Lock
  • สวิตซ์เลือกโหมดการขับขี่ ECO / Normal / Sport
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone และมีสวิตซ์ควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง แบบแยกส่วน
  • มีช่องเก็บของด้านบน แบบรักษาความเย็น Cool Box
  • มีช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ USB Type C ช่องชาร์จไฟ AC 220V 1 ตำแหน่ง

รุ่นย่อย

  • Commander 2.4 V 2WD AT

 

รถฟอร์จูนเนอร์เป็นหนึ่งในรุ่นรถยนต์ยอดนิยมของแบรนด์โตโยต้า ที่ออกแบบมาให้มีความสมบุกสมบัน ภายในกว้างขวางบรรจุของได้เยอะ มีความแข็งแกร่งทั้งภายนอกและภายใน ฟังก์ชันครบครับ นอกจากการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานแล้ว เรื่องรูปลักษณ์ก็สำคัญ เพราะแต่ละรุ่นเรียกได้ว่ามีดีไซน์ที่สวยหรูจนเหล่าคนรักรถต้องยกนิ้วไห้ สำหรับคนที่สนใจรถฟอร์จูนเนอร์มือสองก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ Car Hero แหล่งรวมการซื้อขายรถมือสองคุณภาพดี

February 10, 2024