ในแต่ละครั้งที่จะต้องเปลี่ยนยางรถ หลายๆ คนอาจจะมีคำถามว่า ควรเปลี่ยนยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี? และจะเลือกยางรถที่เหมาะกับรถเก๋งต้องเลือกยังไง? เพราะปัจจุบันแบรนด์ยางรถยนต์นั้นมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายรูปแบบ และหลากหลายฟังก์ชั่น ดังนั้น จึงต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานรถมากที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้การขับขี่ปลอดภัยแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการประหยัดค่าน้ำมันด้วย ดังนั้น ในบทความนี้จะพาทุกคนที่กำลังมีคำถามว่า ควรใช้ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี? และควรเลือกอย่างไร? โดย 10 แบรนด์ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดีสุด และมีรุ่นไหนแนะนำเป็นพิเศษหรือไม่ ไปดูกันเลย!
1. Bridgestone
หากพูดถึงยี่ห้อยางรถยนต์แบรนด์ Bridgestone นับเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ใครต่อใครก็ต้องนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เพราะนับเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดไทย ที่ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1931 ส่งผลให้เทคโนโลยีการผลิตถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีสนามทดสอบกว่า 10 แห่งทั่วโลก เป็นยางรถยนต์ที่เหมาะกับทุกสไตล์การใช้งาน เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ทุกสภาพพื้นถนน อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องความคงทน ดังนั้น Bridgestone จึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ยังไม่รู้ว่าควรใช้ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Bridgestone มีดังนี้
- TURANZA T005A
นับเป็นยางรถเก๋งตัวท็อปที่ขึ้นชื่อในตลาด เพราะว่ามีคุณสมบัติที่ครบครันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าสภาพพื้นถนนจะแห้ง หรือเปียกก็มั่นใจหายห่วง อีกทั้งยังมีการออกแบบบล็อกดอกยางที่มีขนาดต่างกัน เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี ทั้งยังยังส่งมอบมีความนุ่มนวลในการขับขี่ รวมถึงการเข้าโค้งที่ไร้รอยต่อจากการเสริมแก้มยางพิเศษตัวที่ช่วยลดอาการล้อเต้น จึงเหมาะสำหรับรถครอบครัวที่เน้นการใช้งานแบบทั่วไป
2. Michelin
นับว่าเป็นแบรนด์ที่คุ้นหูอีกหนึ่งแบรนด์สำหรับคนไทย นั่นก็คือ Michelin ไม่ว่าใครต่างต้องเคยเห็น หรือคุ้นเคยกับตัว Mascot จากแบรนด์นี้อย่างแน่นอน โดยยางรถเก๋งแบรนด์นี้นับว่าเป็นอีกแบรนด์ที่มีตัวเลือกให้เลือกได้ตามลักษณะการใช้งาน ด้วยอายุของแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1889 จึงสั่งสมประสบการณ์ และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างผลงานในสนามแข่งขันไว้หลากหลายสนาม โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Michelin มีดังนี้
- PRIMACY 4
ยางรถเก๋งรุ่นนี้จะเน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป ด้วยคุณสมบัติของเนื้อยางที่มีความยืดหยุ่น ยึดเกาะได้ดีกับทุกสภาพพื้นถนน พร้อมกับเสริมแถบเนื้อยางระหว่างบล็อกดอกยาง เพื่อช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ และลดการสั่นสะเทือน อีกทั้งมีร่องดอกยางที่กว้างสำหรับการรีดน้ำ เหมาะสำหรับรถขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่
3.Yokohama
สำหรับสายแข่ง หรือผู้ที่ชอบแต่งรถจะต้องรู้จักกับแบรนด์ Yokohama อย่างแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่รังสรรค์ผลงานจากสนามแข่ง สู่การใช้งานได้บนท้องถนนจริง แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความขับขี่ที่นุ่มนวล และเงียบไร้เสียงรบกวนจากยางในขณะที่ขับขี่อีกด้วย โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Yokohama มีดังนี้
- YOKOHAMA ADVAN DB V552
ยางรถเก๋งรุ่นนี้เป็นรุ่นที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการยางรถเก๋งที่พร้อมส่งมอบความนุ่มนวล และไร้เสียงรบกวนจากยาง อีกทั้งยังมั่นใจในสมรรถภาพการยึดเกาะพื้นถนนได้เป็นอย่างดี เพราะว่ายางรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีด้วยคุณสมบัติของดอกยางที่มีถูกออกแบบให้มีการลบเหลี่ยมทำให้ช่วยลดเสียงรบกวน และกระจายแรงสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล เหมาะสำหรับรถครอบครัวขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่
4. Dunlop
นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในตลาดบ้านเรา โดยที่แบรนด์ Dunlop ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1890 ณ Dublin ประเทศ Ireland จะเน้นเรื่องคุณภาพยางที่คุ้มค่า ราคาสมเหตุผล มีหลายรุ่นให้เลือกใช้งานตามไลฟ์สไตล์ที่ใช่คุณ ภายนอกสวยงามน่าใช้ หากใครกำลังมองหายางรถเก๋งที่ราคาเป็นมิตรแล้วล่ะก็ แบรนด์ Dunlop นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม โดยวันนี้คาร์ฮีโร่จะพาไปรู้จักรุ่นยอดฮิตที่ครองใจคนทั่วโลกอย่าง
- DUNLOP EC300+
หากคุณกำลังมองหายางที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าน้ำมันแล้วล่ะก็ รุ่นนี้ตอบโจทย์! ด้วยการที่ดอกยางแบบละเอียดจะช่วยให้ลดแรงต้าน รีดน้ำได้ดี ลดแรงกระแทกจากพื้นถนนจึงส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวลและลดเสียงรบกวน จึงนับเป็นยางรุ่นที่คุ้มค่าเหมาะรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ อีกทั้งยังการใช้งานทั่วไป
5. Continental
Continental เป็นแบรนด์ดังระดับโลกที่ได้รับความนิยมทั่วยุโรป โดยแบรนด์ยางรถยนต์เกรดเยอรมันที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1871 ซึ่งจุดประสงค์หลักของยางรถแบรนด์นี้มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยบนท้องถนนโดยเฉพาะ แถมยังออกแบบมาเพื่อความพึงพอใจของผู้ใช้งานอีกด้วย นับเป็นแบรนด์ที่มีการพัฒนายางที่มีร่องดอกยางเป็นเจ้าแรกของโลก หากใครที่มองหายางรถเก๋งที่จะช่วยเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนกับนวัตกรรมต่างๆ ที่ถูกพัฒนามาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันต้องวางใจกับแบรนด์ Continental อย่างแน่นอน โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Continental มีดังนี้
- ULTRACONTACT UC6
ยางรถเก๋งรุ่นฮิตในกลุ่มรถยุโรป มาพร้อมคุณสมบัติการรีดน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้การขับรถบนท้องถนนที่เปียกได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี ด้วยโครงสร้างอย่าง Diamond Blend Compound ที่ถูกออกแบบมาให้เสมือนเพชร เสริมให้ยางรถสัมผัสกับท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมให้การเบรกเป็นไปอย่างมีสมรรถภาพ ลดเสียงรบกวน และลดแรงกระแทก ส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล มาพร้อมการยึดเกาะขั้นสูงผสานความทนทานนับว่าเป็นไปตามสโลแกนของรุ่นอย่าง “ดีเลิศดังเพชรพลอย” นับเป็นยางที่เหมาะกับรถเก๋งยุโรปขนาดกลาง และการใช้งานทั่วไป
6. Goodyear
มาต่อกันที่แบรนด์ที่ผลิตยางเครื่องบิน และยางรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Goodyear ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1832 นับเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก อีกทั้งยังเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยี และยังเป็นผู้ผลิตยางอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย โดยเน้นที่นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาอย่างต่อเนื่อง และนับว่าเป็นแบรนด์ยางที่เป็นต้นแบบอุตสาหกรรมยานยนต์เลยก็ว่าได้ โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Goodyear มีดังนี้
- EFFICIENT GRIP
ยางรถเก๋งรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการขับขี่ที่นุ่มนวลแบบเหนือระดับด้วยนวัตกรรมเพื่อความนุ่มเงียบสบาย ผ่อนคลายทุกการเดินทาง ที่มาพร้อมโครงสร้างยางดูดซับเรื่องสั่นสะเทือน ลายดอกยางแบบสมมาตร ลายดอกยางกระจายตัวอย่างสมดุล และลายร่องดอกยางเล็กแบบตั้งฉาก ด้วยนวัตกรรมที่กล่าวมาจะช่วยทำให้เกิดคลื่นเสียงรบกวนน้อยลง อีกทั้งยังช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล เหมาะกับรถเก๋งขนาดกลางถึงขนาดใหญ่สำหรับการใช้งานทั่วไป
7. Maxxis
Maxxis เป็นแบรนด์คุณภาพจากไต้หวันที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1967 โดยเริ่มต้นจากยางรถจักรยาน และยางรถยนต์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1974 ได้มีการเริ่มผลิตยางรถยนต์ และยางรถบรรทุกเป็นครั้งแรก เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จจนกลายเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์อันดับ 1 ในไต้หวัน โดยเน้นที่การออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง และพัฒนาให้ยางสามารถดึงศักยภาพออกมาได้อย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะบนท้องถนน หรือสนามแข่ง ถ้าหากใครที่ไม่รู้จะใช้ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี ที่มีความโดดเด่นเรื่องสมรรถนะสูง หรือมองหายางรถสปอร์ตจะต้องถามหา Maxxis เท่านั้น โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Maxxis มีดังนี้
- VS5
ด้วยดอกยางลักษณะพิเศษของรุ่น VS5 ที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันกับลายกรงเล็บเสือชีต้าร์ บล็อกมุมตัดแบบ 3 มิติ ร่องยางแบบ 3+1 ช่วยให้การรีดน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมส่วนผสม Full Silica ที่ช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยมทั้งสภาพถนนแห้ง และเปียก ควบคุมทิศทางได้อย่างดีเยี่ยม และวัสดุ Hybird และการออกแบบเพื่อเสริมความแข็งแรงของแก้มยาง จึงช่วยส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล และมั่นคงขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง นับเป็นยางที่เหมาะกับรถเก๋งสายสปอร์ต หรือคนที่ชอบขับขี่ด้วยความเร็วสูง สามารถรองรับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูงในการขับขี่
8. Toyo
Toyo เป็นบริษัทยางยนต์ที่มีฐานผลิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1945 อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการตีตลาดไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง อีกทั้งยังเป็นเจ้าตลาดในอเมริกาเหนือ นับเป็นแบรนด์ที่มีการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องถึง 70 ปี จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ประสิทธิภาพ และการบริการที่พึงพอใจ โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Toyo มีดังนี้
- PROXES CR1
นับเป็นยางรถเก๋งที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอย่าง Nano Balance Technology ที่เสริมให้การยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ 4 ช่อง ช่วยระบายน้ำออกได้อย่างรวดเร็ว ร่องดอกยางขนาดพิเศษช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ ลดเสียงรบกวน อีกทั้งร่องดอกยางยังมีลักษณะแบบเกลียวพร้อมช่วยให้ยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ และป้องกันการสึกหรอของหน้ายาง จึงส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มสบาย อีกทั้งยังยึดเกาะถนนแห้ง และเปียกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยทุกสภาพถนน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป รองรับรถยนต์ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
9. Nexen
Nexen นับว่าเป็นแบรนด์อุตสาหกรรมยางรถยนต์เจ้าแรกจากเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1942 โดยใช้ชื่อ Heung-A ในช่วงแรกปี 80 ต่อมาในปี 90 ได้มีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น Nexen ในที่สุดนับเป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ยักษ์ใหญ่ ตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง ที่พร้อมรองรับความท้าทายและนวัตกรรมใหม่ๆ จุดเด่นของ Nexen จึงหนีไม่พ้นความเป็นเลิศในมาตรฐานการผลิต โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Nexen มีดังนี้
- N’FERA SU4
ยางรถเก๋งรุ่นนี้เป็นยางที่พร้อมลุยได้ทุกที่ ด้วยคุณสมบัติของดอกยางชนิดไม่สมมาตรที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถิพิถัน หน้ายางกว้าง ดอกยางแข็งจึงช่วยให้ยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม รีดน้ำได้ดีด้วยร่องระบายน้ำที่กว้างถึง 4 ร่อง ส่งมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล ไร้เสียงสะท้อนกวนใจ อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย เหมาะสำหรับการขับขี่ที่สมบุกสมบัน และสามารถรองรับรถยนต์ขนาดเล็กในรูปแบบ Eco Car ไปจนถึงรถยนต์ขนาดกลาง
10. Hankook
Hankook เป็นแบรนด์คุณภาพที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอด 70 ปี เพื่อส่งมอบยางรถยนต์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ทั่วทุกมุมโลก นับว่าเป็นแบรนด์ที่เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีเป็นอันดับต้นๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่พึงพอใจแก่ผู้ใช้งาน โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Hankook มีดังนี้
- KINERGY ECO2
รุ่นนี้นับเป็นยางรถเก๋งที่เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไปกับเทคโนโลยี Aqua-edge จึงเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกบนถนนเปียกโดยไม่เสียการควบคุม อีกทั้งยังยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยี Aqua Turbine และร่องตรงกว้าง 3 ช่อง ที่เสริมการรีดน้ำให้ดียิ่งขึ้น ดอกยางมาพร้อมขนาดบล็อกที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมทำให้ช่วยลดเสียงสะท้อนจากท้องถนน ไม่ว่าสภาพท้องถนนจะอยู่ในสภาพไหนก็วางใจหายห่วง นอกจากนั้นยังช่วยให้ประหยัดค่าน้ำมันได้อีกด้วย เหมาะสำหรับรถเก๋งขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ โดยรุ่นแนะนำของแบรนด์ Hankook มีดังนี้
เกร็ดน่ารู้เรื่องประเภทยางรถยนต์
นอกจากแบรนด์ยางรถยนต์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายแล้ว ประเภทของยางยนต์ก็ยังมีให้เลือกอีกหลากหลายเช่นกัน โดยมีเกณฑ์การแบ่งจากดอกยาง รูปแบบการใช้งาน และประเภทรถ การเลือกยางที่เหมาะกับการใช้งาน นอกจากจะช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างปลอดภัยแล้ว ยังจะช่วยถนอมอายุยางรถยนต์ อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย โดยประเภทของยางรถยนต์มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้
- Highway Terrain (HT)
ดอกยางของยางประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก และละเอียด จึงทำให้มีคุณสมบัติในการรีดน้ำได้เป็นอย่างดี น้ำหนักเบา เกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างของยางเรียบง่ายไม่ซับซ้อน อีกทั้งยังใช้กำลังเครื่องในการหมุนล้อน้อยที่สุดในบรรดาประเภทล้อทั้งหมด ส่งผลให้ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และไม่เหมาะกับการรองรับน้ำหนักเป็นจำนวนมาก
- All Terrain (AT)
ลักษณะดอกยางมีขนาดใหญ่ และหนากว่า Highway Terrain (HT) อีกทั้งร่องยางยังมีความห่างกว่ากันเล็กน้อย โดยสามารถนำไปใช้งานได้บนท้องถนนทั่วไป หรืออาจจะนำไปใช้งานในลักษณะสมบุกสมบันได้ในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบขับออกต่างจังหวัด อีกทั้งยังนิยมใช้กับรถกระบะลักษณะ 4x4 อีกด้วย
- Mud Terrain (MT)
นับว่าเป็นขั้นสุดของประเภทยาง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของโครงสร้างยางที่มีความแข็งแรงเหนือกว่า Highway Terrain (HT) และ All Terrain (AT) อีกทั้งดอกยางที่ใหญ่กว่า ร่องยางที่ลึก และห่างกันมากกว่า เหมาะสำหรับคนที่รักการผจญภัย บุกป่า ฝ่าดง หรือลุยน้ำแบบแอดเวนเจอร์ เพราะว่าเหมาะกับการขับเข้าป่า แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เพราะยางจะไม่เกาะถนน เนื่องจากคุณสมบัติยางประเภทนี้มีไว้เพื่อสกัดตัวดินออกจากหน้ายางโดยเฉพาะ
วิธียืดอายุการใช้งานยางรถยนต์
ไม่ว่าใครก็อยากให้อายุการใช้งานยางรถยนต์นั้นยาวนาน เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในทุกการเดินทางอีกด้วย โดยวิธียืดอายุการใช้งานยางรถยนต์แบบง่ายๆ มีดังนี้
- หมั่นเติมลมยาง
ค่าแรงดันยางลมมาตรฐานอยู่ที่ 30-32 PSI แต่หากกรณีที่เป็นรถที่ต้องบรรทุกน้ำหนักเป็นจำนวนมาก ค่าแรงดันลมควรอยู่ที่ 33-35 PSI แต่หากเป็นรถกระบะในกรณีที่บรรทุกของเต็มท้ายรถ ค่าแรงดันยางลมจะอยู่ที่ 47-51 PSI
- หมั่นเช็กลมยาง
โดยทั่วไปแรงดันลมยางจะลดลงประมาณ 2-3 PSI ต่อเดือน ดังนั้น ก่อนเดินทางควรเช็กลมยางทุกเดือน เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
- หมั่นสลับยางรถยนต์
โดยการสลับยางรถเก๋ง คือ การสลับเปลี่ยนตำแหน่งของยางรถไปยังตำแหน่งอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของล้อรถยนต์อย่างสม่ำเสมอกัน โดยระยะเวลาทำการสลับยางรถยนต์นั้นควรสลับทุกๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร
- หมั่นเข้าศูนย์เพื่อถ่วงล้อและตั้งศูนย์
เพื่อการขับขี่ที่สมดุล และการเกาะถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ล้อเกิดสมดุลขณะเคลื่อนตัว การตั้งศูนย์-ถ่วงล้อ จึงจำเป็นโดยทำการเข้าศูนย์เพื่อทำการตั้งศูนย์-ถ่วงล้อทุกๆ 4-6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร
สรุปชัดๆ เปลี่ยนยางเมื่อไหร่ดี?
เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนยางรถเก๋งคันเก่งของคุณ? ก่อนอื่นอาจจะต้องไล่เช็กจากสภาพยางที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด อาทิ สภาพดอกยาง, แก้มยางเสื่อมสภาพ, ยางบวม, รอยรั่ว, และอายุยาง โดยปกติอายุยางควรมีการเปลี่ยนในทุกๆ 5 ปี ดังนั้น ถ้าหากยางรถมีความปกติ หรือมีอาการที่กล่าวไปข้างต้น หรือว่าครบอายุการใช้งานแล้วก็ควรเปลี่ยนให้เร็วที่สุด
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว หลายๆ คนอาจจะได้คำตอบแล้วว่าควรเลือกยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี? สำหรับการเลือกยางรถเก๋งนั้นควรคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ และรูปแบบการใช้งานมากที่สุด เพื่อให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากต้องการที่จะยืดอายุยางให้ใช้งานได้นานมากยิ่งขึ้น และมีความปลอดภัยในการขับขี่ ต้องห้ามลืมเช็กสภาพยาง หรือเปลี่ยนยางเมื่อสมควร เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวเอง และเพื่อนร่วมท้องถนน