หลายๆ คนอาจจะรู้เบื่อกับสีรถยนต์ของคุณ แต่ถ้าจะทำสีรถยนต์ใหม่ก็แพง และใช้เวลานาน ยิ่งถ้าเปลี่ยนไปแล้วไม่ถูกใจจะเปลี่ยนใหม่ก็เสียดาย เพื่อแก้ปัญหานี้สายแต่งรถต้องลองหันมาทำ Wrap สีรถ แต่ Wrap สีรถคืออะไร ซึ่งบางคนอาจจะพึ่งเคยได้ยิน ดังนั้น ในบทความนี้ Car hero ก็ได้นำข้อมูลเกี่ยวกับการทำ แร็ปสีรถยนต์มาฝาก เพื่อให้ได้ศึกษาก่อนตัดสินใจทำจริง พร้อมบอกข้อดีข้อเสีย รวมถึงวิธีการดูแลรักษาหลังจากทำเสร็จ

การ Wrap รถคืออะไร

​​การ Wrap รถ คือ การนำฟิล์มมาหุ้มรถทั้งคันเหมือนติดสติกเกอร์คุณภาพสูงให้รถ ซึ่งก็สามารถเลือกติดเฉพาะจุดได้ โดยที่ไม่มีผลกระทบอะไรต่อสีของรถ สีของรถจะไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะไม่มีอันตรายต่อสีของตัวรถ แต่ถ้าหากเจอร้านที่ใช้สติกเกอร์คุณภาพต่ำ นั่นอาจทำให้สีซีดหมองลงได้ แถมยังเสี่ยงต่อการที่สีเคลือบจะลอกออกด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ ต้องเลือกช่างที่มีความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้

สำหรับการทำสีในลักษณะนี้จะใช้เวลาไม่นานเท่ากับการเคลือบสีรถยนต์ ซึ่งจะนิยมมากในหมู่คนที่ชอบแต่งรถ  สามารถเลือกสีได้หลากหลาย หรือจะเลือกดีไซน์กราฟิกต่างๆ ได้ตามสไตล์ของตัวเอง ทั้งนี้ การ Wrap รถราคาจะค่อนข้างสูง ขั้นต่ำก็เกือบๆ หมื่นเลยทีเดียว ถึงอย่างไรก็ตามคุณสามารถทำสีในลักษณะนี้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แถมวัสดุนั้นก็หาได้ไม่ยาก มีขายตามร้านเครื่องมือช่างทั่วไป หรือจะสั่งออนไลน์ก็ได้ แต่เวลาเลือกผลิตภัณฑ์ต้องศึกษาให้ดีก่อนทุกครั้ง เลือกที่คุณภาพดีดีและต้องศึกษาวิธีการให้ดี ระมัดระวังในทุกๆ ขั้นตอน

ประเภทของฟิล์มสี Wrap รถ

การทำ Wrap สีรถนั้น จะแบ่งฟิล์มออกเป็น 2 ประเภท คือ ฟิล์มเคฟล่า และฟิล์มคาร์บอนไฟเบอร์ โดยแต่ละฟิล์มก็จะมีลักษณะ และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ซึ่งในหัวข้อนี้ Car hero จะพามาดูว่ารายละเอียดของฟิลม์แต่ละชนิดกัน

• ฟิล์มเคฟล่า

ฟิล์มเคฟล่า หรือคาร์บอนเคฟล่า เป็นฟิล์มที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง คุณภาพดีเยี่ยม มักใช้สำหรับรถแข่ง ตอบโจทย์คนที่ชอบแต่งรถ ซึ่งจะให้อารมณ์ใกล้เคียงกับชิ้นส่วนที่เป็นเคฟล่าจริงๆ โดยฟิล์มเคฟล่านั้น เป็นเส้นใยสังเคราะห์ตระกูล Aramid ลักษณะเฉพาะตัวคือ จะเป็นเส้นใยมีสี ดำ-แดง ดำ-เหลือง และดำ-น้ำเงิน ฟิล์มเคฟล่าจะเน้นการใช้งานด้านความยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยในเรื่องการปกป้องสีรถยนต์ ป้องกันรอยขีดข่วน และมีความสวยงาม

• ฟิล์มคาร์บอนไฟเบอร์

ฟิล์มคาร์ไฟเบอร์ หรือสติกเกอร์ฟิล์มสีดำ นิยมติดบนหลังคารถเพื่อให้มองเสมือนว่ารถคนนั้นเป็นหลังคาแก้ว สมัยก่อนจะใช้กันเฉพาะในอากาซยาน เช่น F1  ฟิล์มคาร์บอน คือการนำแร่ผลึกคาร์บอนมาถักเป็นเส้นใยจำนวนมากเส้นใยคาร์บอนจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่แถวๆ 5-10 ไมครอน ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กมาก

คาร์บอนไฟเบอร์ หรือ เส้นใยคาร์บอน มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบร้อยละ 90 โดยคุณสมบัติของคาร์บอนจะมีความแข็งแรงสูง ต้านทานแรงดึงได้ดี มีน้ำหนักที่เบา ทนต่อสารเคมี และอุณหภูมิ แถมอัตราขยายตัวต่อความร้อนต่ำ สมัยก่อนมีราคาที่สูงมากจึงไม่ค่อยมีคนนิยมใช้ แต่ปัจจุบันฟิล์มคาร์บอนไฟเบอร์เริ่มแพร่หลาย มีร้านรับทำมากขึ้นราคาจึงถูกลงตามกันไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับเกรดงาน และวัตถุดิบของฟิล์มด้วย ฟิล์มคาร์บอนไฟเบอร์จะเน้นการใช้งานในด้านความแข็งแรง เพราะมีความทนทานได้สูง

สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะ Wrap รถ

การ Wrap สีรถนั้นจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เพราะอาจมีผลเสียตามมาทีหลัง เช่น คุณภาพของสติกเกอร์ไม่ดี หรือแม้กระทั่งการศึกษาในเรื่องราคาให้ดีก่อน เพื่อดูว่า Wrap รถราคาประมาณนี้คุ้มค่าหรือไม่

ลักษณะการใช้งาน

การแร็ปสีรถยนต์ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสวยงามของตัวรถ ตัวฟิล์มจะช่วยป้องกันคราบสกปรก หิน สะเก็ดดิน แถมยังทนความร้อนได้ดีอีกด้วย เมื่อถึงเวลาอยากเปลี่ยนสี ตอนลอกออกก็ไม่เป็นอันตรายต่อสีเคลือบรถ แต่ถ้าหากใช้สติกเกอร์คุณภาพไม่ดี ก็อาจทำให้สีเคลือบรถเสียหายได้เช่นกัน และถึงแม้ว่าอายุการใช้งานการ Wrap นั้นจะอยู่ได้ถึง 3 ปี แต่หากไม่ดูแลรักษาให้ดี ปล่อยให้รถจอดตากแดดบ่อยๆ อายุการใช้งานก็จะสั้นลง ตัวฟิล์มอาจหลุดลอก และสีก็อาจซีดได้เร็ว

เมื่อต้องการลอกฟิล์มรถที่ Wrap รถยนต์ออก

หากได้ทำการแร็ปสีรถยนต์ไปสักระยะหนึ่งแล้ว เกิดเบื่อสีเดิมแล้ว อยากเปลี่ยนสีหรือต้องการลอกฟิล์มรถออก ต้องคำนึงถึงข้อควรระวังต่างๆ ด้วย เพราะการลอกฟิล์มรถ หากไม่ระวังอาจเกิดความเสียหายต่อผิวสีเคลือบรถได้ เพราะฉะนั้นเรามาดูการลอกฟิล์มด้วยวิธีต่างๆ ที่ทำได้ง่ายและไม่ทำให้สีเคลือบรถนั้นเสียหาย

1. ให้นำไดร์เป่าผมมาเป่าเบาๆ ลงบน Wrap ที่ติดอยู่กับตัวรถ ความร้อนจากไดร์เป่าผมจะช่วยให้กาวที่เหนียว อ่อนลง หลังจากนั้นก็จะทำให้ฟิล์มที่ติดกับตัวรถลอกออกได้ง่ายขึ้น
2. ใช้น้ำมันฉีดลงบนฟิล์มให้ชุ่ม แล้วทิ้งไว้สักพักนึง หลังจากนั้นให้นำผ้าสะอาดมาเช็ด แต่ต้องค่อยๆ เช็ดอย่างเบามือ สามารถใช้น้ำมันสน น้ำมันพืช หรือน้ำมันมะกอกได้ ทั้งนี้ ให้ระวังไว้ว่า ทินเนอร์ หรือน้ำมันเบนซิน ไม่เหมาะกับผิวที่มีสีเคลือบอย่างรถยนต์ เพราะอาจทำให้สีด่าง หรือลอกได้
3. หากลอกฟิล์มออกมาแล้วมีคราบกาวให้ใช้ครีมทำความสะอาดอเนกประสงค์ ทำความสะอาดอีกครั้ง ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ทั่วไป วิธีการเช็ดคือ ให้นำครีมโปะลงบนผ้าสะอาด แล้วค่อยนำมาถูบนรอยคราบกาว เพียงเท่านี้ก็สามารถกำจัดคราบกาวได้แล้ว

การทำประกันภัยรถยนต์

หากอยากทำสีในลักษณะนี้แล้วกังวลว่าจะทำประกันได้หรือไม่? คำตอบก็คือ สามารถทำประกันได้ ซึ่งหากเราแร็ ปสีรถยนต์หลังจากทำประกันไปแล้ว อันนี้จะอยู่ในส่วนแต่งรถเพิ่มเติม โดยส่วนนี้จะไม่ได้ระบุไว้ในความคุ้มครองในกรมธรรม์ เพราะฉะนั้นควรรีบแจ้งไปที่บริษัทประกันให้เร็วที่สุด เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ทำการประเมินราคา และเพิ่มความคุ้มครองให้ที่เหมาะสม แต่ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายประกันที่เพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันภัยรถยนต์จะพิจารณาด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางบริษัทก็อาจจะไม่รับพิจารณารับประกันรถยนต์ที่ผ่านการ Wrap มา

การ Wrap รถเหมือนกับการทำสีรถยนต์ใหม่หรือไม่

การ Wrap สีรถจะมีวิธีการทำที่แตกต่างกันออกไปจากการทำสีรถยนต์ รวมทั้งแตกต่างกันในเรื่องของราคาและระยะเวลาการทำ อย่างเช่น การ Wrap รถจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการทำสีรถยนต์ และสำหรับการใช้งานตัวฟิลม์จะมีอายุการใช้งานเพียง 2-3 ปี  นอกจากนี้หากเป็นการWrap สีรถจะใช้เวลาในการทำน้อยกว่าการทำสีรถยนต์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 3-4 วัน เมื่อเทียบกับการทำสีรถยนต์อาจใช้เวลาเป็นสัปดาห์

วิธีการดูแลรถยนต์ที่ผ่านการ Wrap มาแล้ว

วิธีการดูแลรถหลังจากที่ได้ทำการแร็ปสีรถยนต์ไปแล้ว คือพยายามอย่าจอดรถในที่โล่งแจ้ง หรือจอดตากแดดไว้นานๆ เพราะอาจจะทำให้สีซีดจางได้ และควรล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพราะคราบสกปรกที่ฝังแน่นอาจทำให้ล้างไม่ออก จนทำให้รถเป็นรอยด่างรอยลึก และดูเก่าลง

โดยการล้างรถให้ถูกวิธี เริ่มจากฉีดน้ำให้แรงสุด เพื่อให้คราบฝุ่นหลุดออกจากตัวรถ ใช้น้ำสะอาด พยายามอย่าใช้ฟองน้ำล้างรถ เพราะว่าพวกเศษกรวดทรายอาจฝังอยู่ในฟองน้ำ เมื่อนำไปขัดอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนได้ และไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะแดดจะทำให้น้ำบนรถแห้งเร็ว และทำให้เกิดคราบน้ำขึ้นเมื่อล้างรถเสร็จแล้วต้องเช็ดรถให้แห้งทุกครั้ง เพราะการไม่เช็ดให้แห้ง อาจทำให้เกิดคราบน้ำจนเกิดรอยด่างโดยเช็ดด้วยผ้าที่มีความนุ่มพิเศษ ที่ผลิตมาเพื่อเช็ดรถยนต์โดยเฉพาะ

ข้อดีและข้อจำกัดในการ Wrap รถ

ก่อนจะตัดสินใจแร็ปสีรถยนต์นั้น เรามาดูข้อดีข้อเสียกันก่อน ว่าสรุปแล้วนั้นการทำ Wrap นั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณหรือไม่

• ข้อดี

การทำ Wrap จะสะดวกในการลอกสี ซึ่งสามารถเปลี่ยนได้ง่ายๆ และใช้เวลาไม่นาน ตัวฟิล์มจะช่วยป้องกันแสง UV สิ่งสกปรก และรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดี แถมยังทนความร้อน เพราะทำมาจาก PVC flim เหมาะกับคนที่ชอบแต่งรถเพราะมีเฉดสีให้เลือกมากมาย มีมิติกว่าการทำสีแบบทั่วไป

• ข้อจำกัด

ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอายุการใช้งาน แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสติกเกอร์ด้วย อายุการใช้งานไม่นานมากประมาณ  2-3 ปี ก็ต้องมาทำใหม่อีกครั้ง หากติดฟิล์มราคาถูก คุณภาพไม่ดี จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสีเคลือบรถได้ ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม

Wrap สีรถยนต์ผิดกฎหมายหรือไม่

การทำแร็ปสีรถยนต์นั้นตอบได้เลยว่า ไม่ผิดกฎหมาย แต่จำเป็นต้องแจ้งการทำสีรถใหม่กับกรมขนส่งทางบก เพื่อป้องกันการทำผิดกฎหมายทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งถ้าหากเป็นการทำสีเฉพาะจุด โดยส่วนที่ทำนั้นไม่เกิน 30% ของตัวรถ ไม่จำเป็นต้องแจ้งกรมการขนส่ง ตัวอย่างเช่น หากทำสีในส่วนประโปรงรถหน้า หรือกระโปรงรถหลังนั่นถือว่าเกิน 30% ต้องแจ้งกรมขนส่งภายใน 7 วัน ไม่งั้นจะถือว่าผิดกฎหมายฐานเปลี่ยนแปลงสีรถให้ผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน2,000 บาท สำหรับขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถสามารถทำตามได้ดังนี้

1. เตรียมเอกสารต่างๆ เช่น คู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ และหลักฐานการเปลี่ยนสีรถอย่างใบเสร็จยืนยันค่าจ้างทำสีรถใหม่ เป็นต้น
2. ยื่นคำขอพร้อมแสดงเอกสารต่างๆ ที่ได้เตรียมไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบคำขอ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะบอกผลการตรวจสอบรถ
3. เมื่อทราบผลแล้ว เจ้าของรถจำเป็นต้องชำระค่าธรรมเนียมที่กรมขนส่ง พร้อมรอรับเอกสารต่างๆ จากทางกรมขนส่ง

จะเห็นได้ว่าการทำแร๊ปสีรถยนต์นั้นใครๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแต่เมื่อทำการเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงรถยนต์แล้ว จำเป็นต้องยื่นเรื่องแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย

การทำ Wrap สีรถนอกจากจะช่วยให้รถยนต์นั้นสวยได้ตามดั่งใจหวังแล้ว ยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรก และรอยขีดข่วนต่างๆ ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามจะต้องคำนึงถึงการใช้งานด้วย เพื่อให้ยังคงความสวยงามอยู่ การศึกษาให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจทำแร๊ปสีรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ได้สีรถที่ตรงตามที่เราต้องการโดยที่ไม่เกิดความเสียหายตามมาทีหลัง เพราะว่าหากพลาดเจอร้านที่ไม่มีคุณภาพ อาจทำให้คราบกาวติด หรือสีซีดจางที่เกิดจากการลอกสติกเกอร์เอาชั้นสีแลกเกอร์ออกไปด้วย