อะไรก็เกิดขึ้นได้ในชีวิต ตอนซื้อรถอาจมีสถานะการเงินมั่นคง คำนวณวิธีผ่อนรถมือสองไว้แล้วเป็นอย่างดี แต่อยู่ๆ อาจมีปัญหาฉุกเฉินเข้ามาโดยไม่คาดคิด  อาทิ เจอเศรษฐกิจทำพิษ เงินเฟ้อ หมุนเงินไม่ทันค่าน้ำมันก็ดี ค่าดูแลรักษาเครื่องยนต์ และค่าผ่อนเองก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดคำถามมากมาย อาทิ ผ่อนรถไม่ไหวทำไงดี? ผ่อนรถไม่ไหวปล่อยให้รถถูกยึดคุ้มไหม? วันนี้จะขอมาแนะนำ “การเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์” ที่เรียกได้ว่าอาจจะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของใครหลายๆ คนได้เลยทีเดียว! แล้วมันคืออะไร มีขั้นตอนหรือวิธีการอย่างไรบ้าง ยุ่งยากไหม? อย่ารอช้า ไปศึกษากันเลย

ทำความรู้จักกับการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ คืออะไร?

การเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์หรือการเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ หมายถึง การเปลี่ยนสัญญารถหรือเปลี่ยนชื่อคนผ่อนรถ แปลว่าผู้เช่าซื้อคนปัจจุบันโอนสิทธิ์หรือเปลี่ยนสัญญารถให้กับผู้อื่นแทน โดยผู้เช่าคนใหม่จะเข้ามาเป็นคู่สัญญาโดยตรงระหว่างผู้เช่าซื้อและต้องรับภาระ หน้าที่ รวมถึงสิทธิ์เรียกร้องในสัญญาเช่าซื้อ โดยสามารถโอนสิทธิ์ดังกล่าวได้ทั้งจากความพึงพอใจของผู้เช่าคนเก่า หรือจากคนในครอบครัวก็ได้เช่นเดียวกัน เพื่อรักษาประวัติการผ่อนชำระของคุณได้ นับเป็นทางเลือกดีๆ อีกทางหนึ่ง

ก่อนเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ต้องเข้าเงื่อนไขเหล่านี้!

การที่คุณจะเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ได้นั้น เงื่อนไขแรกคือรถยนต์คันนั้นจะต้องผ่อนมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือผ่อนค่างวด 1 ใน 4 ของมูลค่าทั้งหมด นอกจากเงื่อนไขนี้ ยังมีเงื่อนไขที่ผู้เช่าเก่าและผู้เช่าใหม่ต้องรับรู้ร่วมกัน ได้แก่

• ต้องไม่ใช่รถป้ายแดง แปลว่า รถยนต์คันดังกล่าวต้องจดทะเบียนที่กรมขนส่งเรียบร้อยแล้ว
• ผู้เช่าเก่าต้องไม่มีค่างวดค้างชำระและไม่มีค่าเบี้ยปรับล่าช้ากับทางสถาบันการเงิน
• ผู้เช่าใหม่ต้องผ่อนค่างวดที่เหลือต่อผู้เช่าเก่า
• ผู้เช่าใหม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
• ต้องชำระค่างวดล่วงหน้า 1-2 งวด
• รถยนต์ต้องอยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน และมีการตรวจสภาพรถ ณ วันยื่นเอกสารขอโอนสิทธิ์

เอกสารเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ต้องใช้อะไรบ้าง

ขึ้นชื่อว่า “สัญญา” แน่นอนว่าต้องมีเอกสารต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เอกสารเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์นั้นจำเป็นต้องมีอะไรบ้าง? เอาปากกามาจดแล้วไปเตรียมเอกสารกันได้เลย!

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้เช่าเก่า ผู้เช่าใหม่และผู้ค้ำประกันของผู้เช่าใหม่ จำนวน 2 ชุด
• สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เช่าเก่า ผู้เช่าใหม่และผู้ค้ำประกันของผู้เช่าใหม่ จำนวน 2 ชุด
• หลักฐานทางการเงินของผู้เช่าใหม่และผู้ค้ำประกันของผู้เช่าใหม่ จำนวน 1 ชุด
• สำเนาใบประกอบการขนส่งหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง กรณีเป็นรถประเภทขนส่งของผู้เช่าใหม่
• แผนที่ที่อยู่ปัจจุบันและที่อยู่ที่ทำงานของผู้เช่าใหม่และผู้ค้ำประกันของผู้เช่าใหม่
• พ.ร.บ. ฉบับจริงของผู้เช่าเก่า
• คู่ฉบับสัญญาเช่าซื้อของผู้เช่าเก่า
• กรมธรรม์ประกันภัยของผู้เช่าเก่า
• ลอกลายเลขตัวถังรถ จำนวน 4 ชุด

ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์

รายละเอียดต่างๆ อาจจะต่างแตกกันไปตามนโยบายของบริษัnsหรือสถาบันการเงินนั้นๆ แต่โดยรวมแล้วค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องเตรียมหากเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ โดยทั่วไป มีดังนี้

• ค่าเปลี่ยนสัญญารถ ประมาณ 1,500 - 4,000 บาท
• ค่าธรรมเนียมการพิจารณาคุณสมบัติ ท่านละ 500 บาท สำหรับผู้เช่าใหม่และผู้ค้ำประกันของผู้เช่าใหม่
• ค่างวดล่วงหน้า 1 - 2 เดือน
• ค่างวดคงค้าง กรณีที่ระยะผ่อนไม่ครบ 1 ปี
• ค่าต่อภาษีรถประจำปี กรณีที่ภาษีเหลือน้อยกว่า 3 เดือน
• ค่าประกันภัย

เมื่อผ่อนรถไม่ไหว ทำอะไรได้บ้างนอกจากเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์

หากไปต่อไม่ไหวแล้ว นอกเหนือจากการเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์แล้ว ยังมีทางเลือกไหนอยู่บ้าง? หากเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อไม่ใช่ทาง ยังมีวิธีอื่นๆ ดังนี้

รีไฟแนนซ์ลดค่างวด

นอกจากการรีไฟแนนซ์บ้านแล้ว รถยนต์ก็มีการรีไฟแนนซ์เช่นเดียวกัน ซึ่งวีธีการก็ไม่ต่างกันมากนัก การรีไฟแนนซ์คือการปรับโครงสร้างหนี้ โดยลดค่างวดให้น้อยลง หรือยืดระยะเวลาการผ่อนให้นานขึ้น จำเป็นต้องรีบทำก่อนที่จะรู้ตัวว่ายืดผ่อนต่อไปไม่ไหวแล้ว เพื่อเป็นการรักษาประวัติทางการเงินของคุณ โดยสามารถทำได้ 2 วิธี ได้แก่

• รีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิม : ควรศึกษาอย่างละเอียด เพื่อให้ได้มาซึ่งดอกเบี้ยที่ลดลง
• รีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ : ควรเป็นเงื่อนไขที่ที่ผู้เช่าต้องการ

เจรจากับการเงิน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้

วิธีนี้นับเป็นอีกหนทางที่จะช่วยให้รอดจากประวัติทางการเงินเสีย หากรู้แล้วว่ายืดต่อไปไม่ไหวแน่ๆ แต่ก็ไม่อยากจะปล่อยมือจากลูกรักคันนี้ เพียงแค่คุณขอเจรจาผ่อนผันหรือพักชำระหนี้กับธนาคารเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หากคุณเป็นคนที่จ่ายค่างวดตรงเวลา ก็มีโอกาสที่ทางธนาคารจะอนุมัติและมีแนวทางช่วยเหลือ เช่น ปรับลดค่างวด ยืดระยะเวลาผ่อน เป็นต้น แต่วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะกับการผ่อนในระยะยาวเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง

หากผ่อนรถไม่ไหว มีปัญหา สะดุด แล้วเกิดคำถามผุดขึ้นมากมายว่ารถยังผ่อนไม่หมดขายได้ไหม? หรือหากผ่อนรถไม่ไหวปล่อยให้รถถูกยึดคุ้มไหม? ความจริงแล้วหากคุณผ่อนต่อไม่ไหว การเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม ทั้งนี้ การดำเนินการจำเป็นต้องเป็นไปตามเงื่อนไขกำหนด เช่น ระยะผ่อนต้องผ่านไปแล้วอย่างน้อย 1 ปีหรือต้องมีผู้ค้ำประกันเป็นต้น รวมถึงคุณจะต้องประกาศขายดาวน์ เพื่อมองหาคนที่สนใจรับช่วงไปผ่อนต่ออีกด้วย