การซื้อรถมือสองแบบผ่อนจ่ายเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการรถแต่ไม่สะดวกเสียเงินก้อนใหญ่ หลายๆ คนจะเห็นว่าในการผ่อนจ่ายจะมีอัตราดอกเบี้ยตามมา จนไม่รู้จะคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์มือสองเพื่อวางแผนการเงินอย่างไรดี ดังนั้น เพื่อให้การคำนวณค่าผ่อนรถมือสองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องแม่นยำ บทความนี้จึงมาอธิบายถึงวิธีคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์มือสองให้ออกมาเป็นจำนวนเงินสุทธิที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือนอย่างละเอียด

การคำนวณการผ่อนรถมือสองที่ดี ช่วยลดภาระ ในระยะยาวได้

การผ่อนรถคือวิธีการแบ่งจ่ายรูปแบบหนึ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทราบอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่แล้ว รถบางคันยังมาพร้อมโปรโมชันส่งเสริมการขาย เช่น ดอกเบี้ย 0% ในช่วงแรก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม รถบางคันอาจมี Vat หรือค่าภาษีที่ต้องนำมาคิดเพิ่มด้วย ประกอบกับค่างวดผ่อนรถมือสองที่มักจะมีราคาแพงกว่ารถมือ 1 หรือรถใหม่ป้ายแดง เพราะถูกกำหนดดอกเบี้ยสูงกว่า ดังนั้น หากคำนวณผ่อนรถมือสองเป็น จะทำให้ค่างวดรถมือสองที่ต้องชำระในแต่ละรอบถูกลงได้ ทั้งยังช่วยควบคุมการวางแผนการเงินให้อยู่หมัดอีกด้วย

จะคำนวณค่างวดรถมือสองได้ ต้องดูอะไรบ้าง

การคำนวณค่าผ่อนรถมือสองไม่ใช่เพียงแค่การแบ่งค่างวดผ่อนชำระเท่านั้น แต่ยังต้องดูถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้ทราบค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการวางแผนการเงิน เพื่อไม่ให้งบบานปลายและมีรายการจุกจิกเกินความจำเป็น ซึ่งมีสิ่งที่ต้องดูดังนี้

1. ยอดจัด ย่อมาจาก ยอดจัดไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นราคาที่หักจากเงินดาวน์รถแล้ว ยกตัวอย่างเช่น หากซื้อรถราคา 550,000 บาท ดาวน์ไป 50,000 บาท ยอดจัดจึงเหลืออยู่ที่ 500,000 บาท

2. ระยะเวลาที่ต้องการผ่อน ในการซื้อรถมือสองแต่ละคัน จะมีโปรโมชันส่งเสริมการขายต่างๆ หนึ่งในนั้นคือระยะเวลาที่ทางผู้ขายได้เสนอให้กับผู้ซื้อ เช่น ผู้ขายให้ผู้ซื้อสามารถผ่อนชำระได้ 48 งวด หรือภายในระยะเวลา 3 ปี เป็นต้น

3. ดอกเบี้ย คือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินกู้รถยนต์ ที่ผู้ซื้อรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสองต้องเจอ โดยส่วนใหญ่แล้วจะอาศัยการคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์มือสองแบบคงที่ กล่าวคือ เป็นการนำยอดชำระคงเหลือมาหารด้วยจำนวนงวดหรือระยะเวลาที่ใช้ผ่อนตามที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้มีการตกลงกัน โดยดอกเบี้ยดังกล่าวจะไม่มีการปรับขึ้นหรือลงแม้ว่าจะชำระครบก่อนกำหนดก็ตาม

4. สินเชื่อ คือ การยื่นขอกู้กับสถานบันการเงินต่างๆ หรือธนาคาร เพื่อนำเงินมาใช้ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องศึกษาและหาข้อมูลต่างๆ เช่น ยี่ห้อหรือรุ่นรถยนต์ การวางแผนการเงิน เอกสารที่ใช้ในการขอสินเชื่อ เพื่อให้ธนาคารพิจารณาก่อนเซ็นอนุมัติ ทั้งนี้ การยื่นขอสินเชื่อจะต้องเปรียบเทียบข้อเสนอของแต่ละสถาบันการเงินให้รอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของตัวผู้ซื้อเอง

วิธีการคำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

ในการคำนวณว่าผ่อนรถมือสองต้องชำระเท่าไหร่นั้น เพื่อให้ผู้ซื้อรับรู้ตรงกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างนั้น จึงต้องรู้อัตราเหล่านี้ก่อน

• ดอกเบี้ยต่อปี หากต้องการทราบว่าในแต่ละปีจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่ ให้ใช้วิธีคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์มือสอง โดยนำยอดจัดหรือจอดจัดไฟแนนซ์คูณด้วยเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ยที่ได้มีการตกลงกัน

• ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา คือดอกเบี้ยที่ได้ถูกกำหนดขึ้นในช่วงนั้นออกมาเป็นตัวเลขแบบตายตัว จากนั้นนำจำนวณดอกเบี้ยดังกล่าว คูณด้วยจำนวนปีที่ผ่อน

• ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย แม้จะผ่านการพิจารณาและเซ็นอนุมัติจากสถาบันการเงินแล้วก็ตาม แต่ยอดสินเชื่อจะต้องถูกคิดรวมกับดอกเบี้ยด้วย โดยวิธีคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์มือสอง ให้นำดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา + ยอดชำระหลังหักจากเงินดาวน์รถ ก็จะทราบว่ายอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ยว่ามีเท่าไหร่นั่นเอง

• ภาษีรถยนต์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ Vat คือภาษีประเภทหนึ่งที่ทางรัฐเก็บจากผู้ซื้อสินค้าและบริการซึ่งรวมไปถึงรถยนต์ทั้งมือหนึ่งและมือสอง โดยภาษีรถยนต์สามารถคำนวณง่ายๆ เพียงนำยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย × ดอกเบี้ย 7%

• ยอดรวมสินเชื่อหลังบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อรู้ยอดรวมสินเชื่อแล้ว ให้นำยอดสินเชื่อที่รวมดอกเบี้ยแล้ว + ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้ได้ค่าใช้จ่ายที่ตายตัว

• ยอดผ่อนต่อเดือน ให้การผ่อนรถมือสองเป็นเรื่องง่าย เพียงรู้ว่ายอดผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ ก็สามารถวางแผนการเงินเพื่อเตรียมค่าใช้จ่ายได้แล้ว ซึ่งจะรู้ได้ว่ายอดผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ ให้นำ ยอดสินเชื่อหลังรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม / จำนวนเดือนที่ผ่อน

หลังจากที่รู้แล้วว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับผ่อนรถอะไรแล้วบ้างนั้น ให้มาลองดูตัวอย่างประกอบเพื่อเพิ่มความเข้าใจกันเลย

ยกตัวอย่างเช่น

หากต้องการซื้อรถมือสองราคา 2 ล้านบาท ดาวน์ไป 50,000 บาท และมี ดอกเบี้ยรถมือสองอยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ ระบุสัญญาจะผ่อนจ่ายภายใน 5 ปี จะมีวิธีหาค่าคำนวณผ่อนรถมือสอง ดังนี้

• ดอกเบี้ยต่อปี:

รวมยอดจัดหลังหักค่าดาวน์รถ 1,950,000 × ดอกเบี้ย 5% = 97,500 บาท

• ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา:

ดอกเบี้ย 97,500 × จำนวนปี 5 = 487,500 บาท

• ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย:

ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา 487,500 + ยอดชำระหักค่าดาวน์รถ 1,950,000 = 2,437,500 บาท

• ภาษีรถยนต์:

ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย 2,437,500 × ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = 170,625 บาท

• ยอดรวมสินเชื่อหลังบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม:

ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย 2,437,500 + ดอกเบี้ย 170,625 = 2,608,125 บาท

• ยอดผ่อนต่อเดือน:

ยอดสินเชื่อหลังรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 2,608,125  /  จำนวนเดือนที่ผ่อน 60 = ยอดผ่อนรถมือสองจำนวน 43,468.75 ต่อหนึ่งงวด

เพื่อให้การคำนวณผ่อนรถเป็นไปอย่างง่ายดาย ทาง Carhero เปิด เครื่องมือการผ่อนชำระ เบื้องต้นให้ทุกท่านได้เข้ามาคำนวณก่อนการยืนไฟแนนซ์จริงได้แล้ว วันนี้

4 เรื่องต้องรู้ ในการจ่ายค่างวดผ่อนรถมือสอง

วิธีหาค่าคำนวณผ่อนรถมือสอง นอกจากจะทำให้รู้ยอดชำระที่จำเป็นต้องใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยในการวางแผนทางการเงินเป็นขั้นตอนและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ อาจเพิ่มโอกาสให้ชำระค่างวดเร็วกว่าที่กำหนดได้ด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การซื้อรถยนต์มือสองเป็นไปด้วยความราบรื่นและสะดวกสบาย จึงมี 3 เรื่องหลักๆ ที่ผู้ซื้อรถยนต์มือสองทุกคนควรรู้ก่อนเลือกซื้อรถและจ่ายค่างวดในแต่ละเดือน ดังต่อไปนี้

เลี่ยงการผิดนัดชำระ

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งหากผิดนัดชำระ ไม่จ่ายตามยอดหรือเวลาที่กำหนด เพราะอาจมีค่าปรับและผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายบานปลายและการถูกประเมินว่ามีประวัติการเงินที่ไม่ดี จึงควรศึกษาเงื่อนไขของสถาบันทางการเงินที่ให้บริการอย่างละเอียด หากไม่เช่นนั้นแล้ว อาจผิดสัญญาหรือเงื่อนไขที่ตกลงกันได้ เช่น หากผิดนัดชำระ 3 เดือนติดต่อกัน รวมถึงถูกทางเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์แจ้งชำระรวม 30 วันแล้ว อาจถูกยึดรถ และต้องจ่ายค่าเสียหายได้ เป็นต้น ดังนั้น ให้เลือกรุ่นรถที่เหมาะในราคาสมเหตุสมผลจึงสำคัญอย่างยิ่ง รวมทั้งคำนวณค่างวดรถมือสองให้เป็น เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้น

หากสถานการณ์ทำให้ไม่สามารถชำระได้ ห้ามเงียบ หรือทิ้งไว้ ควรปรึกษากับเจ้าหน้าที่แบงค์ เพื่อแสดงเจตจำนงในการชำระ แต่หากสถานการณ์นั้นบีบให้ไม่สามารถชำระได้เต็มในเดือนนั้นๆ ก็สามารถลองทำการรีไฟแนนซ์ได้เช่นกัน

ชำระครบก่อนกำหนดได้

เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งหากผู้ซื้อจะสามารถชำระค่ารถมือสองได้ก่อนกำหนด นอกจากจะรู้สึกสบายใจแล้วยังเป็นผลดีต่อทางสถาบันการเงินที่ให้กู้อีกด้วย เนื่องจากบางสถาบันการเงิน หากสามารถชำระครบก่อนกำหนดได้ อาจมีข้อเสนอเพิ่มเติมเช่น ส่วนลดดอกเบี้ยให้กับผู้ซื้อ ทำให้ค่างวดผ่อนรถมือสองถูกลงและสามารถเร่งปิดยอดผ่อนค่างวดรถได้เร็วขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้จะต้องศึกษาเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่ใช้บริการอย่างละเอียด

อย่าลืมพิจารณารายได้ควบคู่ไปกับยอดผ่อน

เพื่อให้การซื้อหรือผ่อนรถมือสองไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงควรคำนวณค่าผ่อนรถมือสองให้ดี เช็กให้ชัวร์ก่อนว่าสามารถชำระต่องวดไหวหรือไม่ โดยพิจารณาจากเงินเดือนเป็นหลัก ซึ่งภาระในการผ่อนค่ารถควรอยู่ที่ประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อรายจ่ายอื่นๆ ของตัวเอง

หากผ่อนชำระไม่ไหว มีวิธีการใดบ้าง?

ในการชำระค่างวดรถมือสองนั้น หากพบว่าไม่สามารถผ่อนได้ตามที่ตกลงกันในสัญญาหรือเงื่อนไขที่ระบุไว้ ไม่ต้องกังวลใจไป ค่อยๆ ตั้งสติ จากนั้นจึงค่อยๆ  หาวิธีการรับมือกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งมีทางเลือกมากมาย ดังนี้

ขอพักชำระหนี้

การขอพักชำระหนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ผู้ซื้อควรพิจารณาเป็นสิ่งแรก โดยสามารถเจรจากับทางไฟแนนซ์เพื่อขอพักการจ่ายเงินต้นไว้ก่อน ทั้งนี้ ยังต้องเสียดอกเบี้ยค่างวดรถยนต์ตามเดิม หรือมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นตามแต่จะตกลงกัน ดังนั้น จึงต้องคำนวณดอกเบี้ยและค่างวดรถมือสองให้ดี มีการศึกษาข้อมูลหรือเงื่อนไขเพิ่มเติม เพราะหากขอพักชำระหนี้นานเกินกำหนดอาจกลายเป็นการผิดชำระหนี้ได้

รีไฟแนนซ์

สำหรับคนที่ต้องการยืดเวลาชำระหนี้ การทำรีไฟแนนซ์สามารถช่วยได้ เพราะรีไฟแนนซ์เป็นการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินใหม่เพื่อนำเงินไปใช้ชำระหนี้กับสถานบันการเงินเดิม จากนั้นจึงค่อยเลือกชำระหนี้กับสถาบันการเงินที่เลือกใหม่แทน โดยสถาบันการเงินบางแห่งอาจให้เงื่อนไขที่ดี เช่น ดอกเบี้ยต่ำกว่า ระยะเวลาผ่อนนานขึ้น ช่วยให้การวางแผนการเงินสบายขึ้น ไม่ติดขัด โดยเฉพาะใครที่กำลังหาวิธีลดภาระรายจ่ายจากค่างวดรถมือสองอยู่

ขายให้ผู้อื่นและเปลี่ยนสัญญา

หากมีเหตุจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถผ่อนรถต่อได้แล้ว สามารถทำการขายสัญญาผ่อนซื้อรถยนต์ให้กับผู้อื่นได้เช่นกัน เช่น หากผ่อนรถไปแล้ว 2 ปี แต่ยังเหลืออีก 3 ปี สามารถขายต่อให้ผู้อื่นเพื่อนำไปผ่อนต่ออีก 3 ปีที่เหลือได้ เพราะฉะนั้น ผู้ขายควรคำนวณค่าผ่อนรถมือสองให้ดี เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของเราเอง

คืนรถ

กรณีที่ไม่ได้ทำการขอพักชำระหนี้ รีไฟแนนซ์ ขาย หรือเปลี่ยนสัญญาให้ผู้อื่น อีกทั้งไม่สามารถผ่อนรถต่อไปได้ จนนำไปสู่วิธีการสุดท้ายคือ ทางไฟแนนซ์จะนำรถไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินส่วนที่ได้จากการขายรถไปหักลบกลบหนี้ หากยังมีค่าใช้จ่ายติดค้างอยู่ ทางเจ้าของรถจะต้องจ่ายในส่วนที่เหลือ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เพิ่ม เช่น ค่าดอกเบี้ยผิดสัญญา ค่าทวงถามหรือค่าติดตาม

ปรึกษาฝ่ายสินเชื่อรถยนต์

ในปัจจุบัน สถาบันการเงินหรือธนาคารหลายแห่งเริ่มมีบริการให้คำปรึกษาสินเชื่อเรื่องรถยนต์แล้ว เหมาะกับผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองอยู่ เพื่อช่วยให้สามารถคำนวณค่าผ่อนรถมือสอง รู้จักรับมือ และวางแผนการเงินได้อย่างมั่นคง มีการแบ่งค่าใช้จ่ายอย่างเป็นสัดส่วน และไม่สร้างภาระหรือก่อหนี้สิน

วิธีการคำนวณผ่อนรถมือสองสามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ เพียงต้องรู้ยอดจัดไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยต่อปี และระยะเวลาที่ใช้ผ่อนก็สามารถนำมาคิดต่อเองได้ เพื่อคำนวณดอกเบี้ยรถยนต์มือสองได้อย่างแม่นยำ หรือสารมารถใช้เครื่องมือคำนวณผ่อนชำระของ Carhero เพื่อช่วยคำนวณได้  และเมื่อทราบค่างวดรถที่ต้องจ่ายแต่ละเดือนแล้วก็จะสามารถตัดสินใจเลือกซื้อรถมือสองสภาพดีในราคาสบายกระเป๋า และวางแผนการเงินได้รัดกุมมากขึ้น ที่สำคัญ อย่าลืมเลือกรถที่ผ่อนชำระไหว เพื่อป้องกันปัญหาอื่นๆ ตามมา